หุ้นของบริษัทที่เข้าซื้อคริปโทฯ ราคาดิ่ง แต่บริษัทที่เปลี่ยนสายมาทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโทฯ กลับพุ่งแรง

Posted 5 days ago by Support WaanX

  • Topic is Locked
Support WaanX
Support WaanX Admin

ตลาดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีในสหรัฐฯ และแคนาดาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ผันผวนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการร่วงลงของราคา Bitcoin ที่ต่ำกว่า $113,000 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองสัปดาห์


กลุ่มบริษัทสะสมคริปโทฯ (Crypto Treasuries) ขาดทุนยับ

ราคาหุ้นของบริษัทที่ซื้อและถือครองคริปโทฯ ในคลังสินทรัพย์ (treasury) ดิ่งลงอย่างรุนแรง นำโดย:

  • Helius Medical Technologies (HSDT): บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์รายนี้ร่วงหนักที่สุดถึง 33.6% หลังจากประกาศเข้าซื้อ Solana (SOL) ด้วยเงินกว่า $175.6 ล้าน ซึ่งทำให้มูลค่าที่ถือครองลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคา SOL ก็ร่วงลงกว่า 7% ในวันเดียวกัน

  • CEA Industries (BNC): บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าที่หันมาสะสม BNB ราคาหุ้นร่วง 19.5% หลังจากประกาศข้อตกลงการขายหุ้นมูลค่า $500 ล้าน
  • BitMine Immersion Technologies (BMNR): ราคาหุ้นร่วง 10% หลังจากประกาศเข้าซื้อ Ethereum (ETH) มูลค่า $1.1 พันล้าน
  • Strategy Inc. (MSTR): บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ถือ Bitcoin ที่ประกาศซื้อ BTC เพิ่มอีก $99.7 ล้าน ก็ปิดตลาดในแดนลบเช่นกัน โดยลดลง 2.5%


บริษัทที่เปลี่ยนสายมาทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโทฯ (Crypto Pivots) พลิกกลับมาทำกำไร

ในทางตรงกันข้าม บริษัทที่ประกาศจะหันมาดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับคริปโทฯ หรือ Web3 กลับมีราคาหุ้นพุ่งสูงอย่างน่าประหลาดใจ:

  • AgriFORCE Growing Systems (AGRI): บริษัทเทคโนโลยีการเกษตรรายนี้มีราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 138% หลังจากประกาศจะเปลี่ยนชื่อเป็น AVAX One และระดมทุน $550 ล้าน เพื่อซื้อ Avalanche (AVAX)
  • Qualigen Therapeutics (QLGN): บริษัทที่พัฒนายาต้านมะเร็งรายนี้มีราคาหุ้นพุ่งเกือบ 95% หลังประกาศจะเริ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ และ Web3 ด้วยเงินลงทุน $41 ล้าน


นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับบริษัทอื่น ๆ ในวงการคริปโตฯ เช่น Bakkt Holdings (BKKT) บริษัทรับฝากและซื้อขายคริปโทฯ ที่ราคาหุ้นพุ่งกว่า 40% หลังจากแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโทฯ เข้าเป็นคณะกรรมการ และ Semler Scientific (SMLR) บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่หันมาถือครอง Bitcoin ก็มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 9.8% หลังประกาศว่า Strive Inc. บริษัทจัดการสินทรัพย์ จะเข้าซื้อกิจการ


การซื้อขายที่หลากหลายในตลาดครั้งนี้สอดคล้องกับคำแนะนำของ Deng Chao ซีอีโอของ HashKey Capital ที่กล่าวว่า "บริษัทที่สะสมคริปโทฯ จะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อมีกลยุทธ์ระยะยาวเท่านั้น" โดยเน้นย้ำว่าการสร้างคุณค่าระยะยาวสำคัญกว่าการมุ่งหวังกำไรในระยะสั้น


Disclaimer

  • ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และเป็นข้อมูลที่อาจเชื่อได้ว่ามีความน่าจะเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ บริษัทมิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ข้อความตามบทความนี้ เป็นข้อเท็จจริง และ/หรือ ความคิดเห็นของเจ้าของบทความ ณ วันที่แสดงผลในช่องทางที่บริษัทกำหนดเท่านั้น ซึ่งข้อเท็จจริงหรือความคิดเห็นดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังจากวันที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป บริษัทจึงใคร่ขอให้ผู้อ่านศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อให้มีข้อมูลเพียงพอต่อการประกอบการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น
  • ข้อมูลตามบทความฉบับนี้ที่บริษัทได้จัดให้มีการเผยแพร่นั้นไม่มีผลผูกพันต่อบริษัทแต่อย่างใด บริษัทเพียงนำข้อมูลมาแสดงเพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น นักลงทุนจึงควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณาตัดสินใจก่อนการลงทุนด้วยตนเอง
  • การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกคน ทั้งนี้ ก่อนการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงิน วัตถุประสงค์ในการลงทุน ประสบการณ์ในการลงทุนของท่าน ตลอดจนความเสี่ยงที่ท่านสามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ท่านควรพิจารณาถึงความเสี่ยงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และท่านควรตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง


รายงาน:Don’t Tap The Glass

เรียบเรียง:Don’t Tap The Glass

อ้างอิง:https://cointelegraph.com/news/crypto-treasury-stocks-fall-markets-rout-with-some-exceptions

0 Votes


0 Comments